การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า คือ การออกกำลังกายที่เหมือนกับการวิ่งโดยทั่วไป มีความแตกต่างกันตรงที่การวิ่งทั่วไปต้องออกไปวิ่งกลางแจ้ง
หรือที่สาธารณะ แต่การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าสามารถวิ่งในบ้าน ฟิตเนส หรือตามสถานที่ในร่มได้
และยังมีการออกแบบตารางวิ่ง ที่ทำให้การวิ่งของเราในแต่ละวันไม่น่าเบื่อ
ซึ่งการใช้ความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้าจะทำให้ร่างกายสามารถเบิร์นไขมันได้ดี ดังนั้นการวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้ามีข้อดี ดังนี้เลย
ข้อที่ 1. สำหรับมือใหม่ การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า ตามตาราง ถือเป็นการเตรียมตัวที่ดี ก่อนออกวิ่งระยะไกล
ข้อที่ 2. หากมีตารางวิ่ง จะทำให้การออกกำลังกายของเราไม่น่าเบื่อจนเกินไปค่ะ เพราะสามารถควบคุมความเร็วตามความต้องการของผู้ใช้ได้ทุก ๆ 2-5 นาที ตารางนี้สามารถใช้วิ่งทุกวันหรือวันเว้นวันก็ได้
ข้อที่ 3. สามารถวิ่งได้ทุกเวลา ไม่ติดปัญหาด้านสภาพอากาศ ฝุ่นมลพิษ และการวิ่งบนลู่วิ่งยัง เป็นมิตรต่อข้อต่อ และกระดูก
การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า เหมาะกับคนที่ ต้องการ ออกกำลังกาย เพิ่มความแข็งแรงและความทนทานของขา การใช้ลู่วิ่งเป็นประจำสามารถช่วยสร้างและกระชับกล้ามเนื้อขา รวมถึงควอดริเซ็ป เอ็นร้อยหวาย และน่อง เป็นวิธีที่ดีในการออกกำลังขาและความอดทน
เหมาะกับคนที่ ต้องการ
ฟิตเนสหัวใจและหลอดเลือด ลู่วิ่งนั้นยอดเยี่ยมสำหรับการพัฒนาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด ส่งเสริมสมรรถภาพหัวใจและหลอดเลือดโดยรวมที่ดีขึ้น
เหมาะกับคนที่ ต้องการ
การเผาผลาญแคลอรี่และการจัดการน้ำหนัก การออกกำลังกายบนลู่วิ่งออกกำลังกายมีประสิทธิภาพในการเผาผลาญแคลอรี่ ทำให้เป็นองค์ประกอบสำคัญของโปรแกรมลดน้ำหนักและการจัดการน้ำหนัก ความสามารถในการควบคุมความเร็วและความชันทำให้ผู้ใช้สามารถปรับความเข้มข้นของการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น
เหมาะกับคนที่ ต้องการ สร้างกล้ามเนื้อ
1.กล้ามเนื้อขา
Quadriceps: อยู่ที่ด้านหน้าของต้นขา กล้ามเนื้อเหล่านี้ช่วยยืดเข่าให้ตรงในขณะที่คุณดันสายพานลู่วิ่งออกในแต่ละก้าว
เอ็นร้อยหวาย: อยู่ที่ด้านหลังของต้นขา กล้ามเนื้อเหล่านี้ทำงานเพื่องอเข่าในขณะที่คุณแกว่งขาไปด้านหลังระหว่างการวิ่งหรือการเดิน
น่อง: กล้ามเนื้อที่ด้านหลังของขาท่อนล่างช่วยยกส้นเท้าของคุณขณะที่คุณเคลื่อนไหว ทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนในแต่ละก้าว
2.กล้ามเนื้อบั้นท้าย
Gluteus Maximus: กล้ามเนื้อขนาดใหญ่ในบั้นท้ายนี้ช่วยในการขยายสะโพก ขับเคลื่อนขาของคุณไปข้างหลังในแต่ละก้าว
3.กล้ามเนื้อแกนกลาง
หน้าท้อง: กล้ามเนื้อแกนกลางของคุณทำให้ลำตัวและกระดูกเชิงกรานของคุณมั่นคงขณะวิ่งหรือเดิน ช่วยให้คุณรักษาสมดุลและท่าทาง
Obliques: อยู่ที่ด้านข้างของหน้าท้อง กล้ามเนื้อเหล่านี้ช่วยให้ร่างกายของคุณมั่นคงในระหว่างการเคลื่อนไหวด้านข้าง
4.สะโพกงอ
กล้ามเนื้อสะโพกงอที่ด้านหน้าของสะโพกช่วยยกขาของคุณไปข้างหน้าในแต่ละก้าว
5.กล้ามเนื้อหลัง
Erector Spinae: กล้ามเนื้อเหล่านี้ตามหลังกระดูกสันหลัง ให้การสนับสนุนและช่วยรักษาท่าทางตั้งตรงระหว่างการออกกำลังกายบนลู่วิ่ง
หลายๆคนลังเล ว่าควรเลือกซื้อเครื่องเดินวงรี หรือ ลู่วิ่งไฟฟ้าดี มาไว้ที่บ้าน เพราะอุปกรณ์สองชนิดที่มีความคล้ายกันในการก้าวท้าวเพื่อออกกำลังกาย แต่จริงๆมีความแตกต่างกันอย่างมาก ยิ่งถ้าคุณต้องการเครื่องออกกำลังกาย 1 เครื่องเพื่อแบ่งกันใช้งานที่บ้าน ต้องคำนึงถึงข้อแตกต่างนี้ให้ดี
เครื่องเดินวงรี แตกต่างกับลู่วิ่งไฟฟ้า 4 ข้อหลักๆ
(A) ออกกำลังกายได้ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง – เครื่องเดินวงรีนั้น เกือบทุกตัวจะมีคันโยกสำหรับใช้มือจับ ทำให้สามารถบริหารกล้ามเนื้อได้เกือบครบทุกส่วนของร่างกาย
(B) ไม่มีแรงกระแทกของข้อเข่า – เครื่องเดินวงรีไม่มีแรงกระแทกส่งต่อมาที่ข้อเข่า เพราะลักษณะเหมือนการเดินบนอากาศ จึงเหมาะกับคนที่มีน้ำหนักตัวมาก และไม่อยากเจ็บเข่า
(C) เสียงที่เงียบกว่าลู่วิ่งไฟฟ้า – เครื่องเดินวงรีไม่ต้องใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเหมือนลู่วิ่ง ทำให้เสียงเงียบ ใช้งานได้ไม่รบกวนคนที่อยู่ในห้องเดียวกัน
(D) สามารถเดินถอยหลังได้ – เครื่องเดินวงรีนั้น สามารถเดินถอยหลังได้ สำหรับคนที่ต้องการได้ประโยช์น ของการเดินถอยหลัง
เครื่องเดินวงรี ออกกำลังกายได้ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง
เครื่องเดินวงรีสามารถเดินและใช้คันโยกพร้อมกันได้ ทำให้สามารถบริหารกล้ามเนื้อได้เกือบทุกส่วนของร่างกาย กล้ามเนื้อที่เครื่องเดินวงรีบริหารได้นั้นแบ่งเป็นสองแบบคือ กล้ามเนื้อหลัก และ กล้ามเนื้อรอง
(A) กล้ามเนื้อหลักที่ได้ – จะเป็นกล้ามเนื้อส่วนล่างทั้งหมด คือ1.น่อง 2. ต้นขาหลัง 3. ต้นขาหน้า 4. ก้น
(B) กล้ามเนื้อรองที่ได้ – จะเป็นกล้ามเนื้อส่วนบนที่ได้จากการใช้คันโยก กล้ามเนื้อที่ได้ 1.หัวไหล่ 2.หน้าอก 3.หน้าแขน 4.หลังแขน 5.หน้าท้อง 6.หลัง
และหากอยากบริหารส่วนบนมากกว่าส่วนล่าง สามารถทำได้โดยการออกแรงจากแขนในการเคลื่อนไหวมากกว่าขา
ส่วนลู่วิ่งนั้นจะใช้แรงจากกล้ามเนื้อส่วนล่างเป็นหลัก ไม่สามารถบริหารกล้ามเนื้อส่วนบนได้เหมือนเครื่องเดินวงรี
จักรยานเอนปั่น (Recumbent Exercise Bike)
เป็นเครื่องออกกำลังกายที่ใช้ในการฝึกออกกำลังกายโดยขี่จักรยานแบบนอน (recumbent) หรือแนวนอนเอนตรง โดยผู้ใช้นั่งบนเบาะที่ถูกออกแบบให้สะดวกและสบาย ที่นั่งบนจักรยานเอนปั่นคล้ายกับเบาะนั่งในรถเครื่อง และขับจักรยานโดยใช้เท้าแบบกระตุ้น (pedals) ที่อยู่ด้านหน้าของเครื่อง มีพวงมาลัยหรือแขนที่ใช้ในการกระตุ้นเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าแขนได้ด้วย.
จักรยานเอนปั่นเป็นเครื่องออกกำลังกายที่นิยมในฟิตเนสและการฝึกฟิตเนส เนื่องจากมีหลายประสิทธิภาพและคุณสมบัติที่ทำให้คนสามารถออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพและสบายสบาย การนั่งแบบนอนทำให้มีการรองรับหลังและข้อต่ำแหนงอย่างดี ลดการแข็งข้อและการกระทำลงตั้งที่อาจทำให้มีปัญหาข้อและกระดูก นอนและขี่จักรยานนี้ยังช่วยให้คุณสามารถออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องแข็งข้อหลายชนิด และมีระบบปรับความร้อนสำหรับลำโลงเพื่อความสบายเมื่อออกกำลังกายเป็นเวลานาน
จักรยานเอนปั่นมักมีระบบควบคุมความเร็วและความหนาแน่นของการกระตุ้น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับระดับของความพร้อมของตนและวัตถุประสงค์ในการออกกำลังกายของตนเอง จักรยานเอนปั่นเป็นเครื่องออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือคนที่มีปัญหาในการขี่จักรยานแบบตัวตั้ง เพราะมีความสบายและนิรภัยเมื่อใช้งาน มันช่วยเสริมสุขภาพร่างกายและความรู้สบายขณะออกกำลังกายโดยไม่ทำให้เกิดภาระมากบนข้อและกระดูก
จักรยานเอนปั่นเหมาะสำหรับผู้ใช้งานในกรณีและสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการออกกำลังกายโดยไม่ต้องมีแรงกดที่ข้อและกระดูกมากนัก
ผู้สูงอายุ: จักรยานเอนปั่นเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการออกกำลังกายอย่างปลอดภัยและสะดวก การนั่งแบบนอนช่วยให้ลดความกดที่ข้อต่างๆ และรองรับหลังและกระดูกได้ดี นอนหลับและขี่จักรยานเอนปั่นยังช่วยลดความเสี่ยงในการล้มหล่นและบาดเจ็บ
ผู้ที่มีปัญหาเรื่องข้อและกระดูก: จักรยานเอนปั่นเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องข้อและกระดูก เนื่องจากมีการรองรับที่ดีต่อหลังและข้อต่ำแหน่ง ลดความแข็งข้อและการกระทำลงตั้ง ช่วยให้คุณออกกำลังกายโดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการบาดเจ็บหรือความผิดปกติของข้อและกระดูก
ผู้ที่ต้องการออกกำลังกายอย่างปลอดภัย: การนั่งแบบนอนบนจักรยานเอนปั่นช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บและลดความกังวลเกี่ยวกับการล้มหล่น นอนและขี่จักรยานเอนปั่นมีความนิรภัยและสบายตลอดเวลา
เมื่อเลือกจักรยานออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการออกกำลังกายเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นประเภทที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับสุขภาพของคุณ นอกจากนี้, ควรเริ่มต้นด้วยระดับความยากหรือระดับความเร็วที่ต่ำแล้วเพิ่มระดับเมื่อคุณมีความพร้อมเพิ่มขึ้น